วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พันธุ์ไก่พื้นเมือง

 พันธุ์ไก่พื้นเมือง

      ไก่ถูกจัดอยู่ในสัตว์ปีกจำพวกนก แต่เดิมนั้นเป็นไก่ป่า (Red Jungle fowl) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus มีหลายวงศ์ บินได้ในระยะสั้น หากินตามพื้นดิน ตกไข่ก่อนแล้วจึงฟักเป็นตัว ตัวผู้หงอนใหญ่และเดือยยาว ไก่พื้นเมืองของไทยมีการเลี้ยงกระจายอยู่ทั่วไปตามหมู่บ้านของเกษตรกร ซึ่งจำแนกตามลักษณะ ภายนอกและสีขน แบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่ม
       ไก่พื้นเมืองในชนบทหมู่บ้านต่างๆ  มีหลากหลายพันธุ์  เช่น  ไก่แจ้  ไก่อู  ไก่ตะเภา  ไก่เบตง  และไก่ชน  โดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้ว  ไก่พื้นเมืองในหมู่บ้านจะเป็นสายพันธุ์ไก่ชน  สังเกตได้จากแม่ไก่จะมีขนสีดำ  หน้าดำและแข้งดำ  หงอนหิน  แต่จะมีพันธุ์บางส่วนที่มีสีเทา  สีทอง  แต่หงอนก็ยังเป็นหงอนหิน  ซึ่งก็เป็นลักษณะหงอนของไก่ชนอยู่ดี  เหตุที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงไก่พื้นเมืองสายพันธุ์ไก่ชน  เพราะว่าไก่ชนจะมีรูปร่างใหญ่และยาว  เจริญเติบโตได้ดีและแม่พันธุ์ก็ไข่ดก  เนื่องมาจากนักผสมพันธุ์ไก่ชนได้คัดเลือกลักษณะดีเด่นไว้อย่างต่อเนื่องนับร้อยปีมาแล้ว  เกษตรกรเพื่อนบ้านจะขอซื้อ  ขอยืมหรือขอไปขยายพันธุ์แบบเป็นคนรู้จักมันคุ้นกันและกัน  ก็ทำให้สายพันธุ์ศาสตร์ พบว่าไก่พื้นเมืองในหมู่บ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติการเจริญเติบโตในระยะอายุ  4  เดือนแรก  เฉลี่ยใกล้เคียงกันมาก  คือ  เติบโตวันละประมาณ  9-10  กรัมเท่านั้น  แสดงให้เห็นว่าไก่พื้นเมืองเหล่านี้เป็นสายพันธุ์ไก่ชนจาก  17  จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  แต่การปรับปรุงพันธุ์ไม่ได้เน้นในด้านการชนเก่งแต่เน้นในด้ายการเจริญเติบโต  และไข่ดกเพื่อให้สามารถขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว  สำหรับไก่ชนไทยแท้สีขนแยกได้หลากหลายถึง  17  สีขน  เช่น  เหลืองหางขาว  ประดู่หางดำ  เหลืองเลา  ประดู่เลา  แสมดำ  เป็นต้น

 สายพันธุ์เหลืองหางขาว
         แหล่งกำเนิด ไก่เหลืองหางขาว มีถิ่นกำเนิดแถวภาคเหนือของไทย บ้านหัวเท ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกเป็นแหล่งกำเนิดไก่พันธุ์เหลืองหางขาวพันธุ์ดีสายเลือดแท้ นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไป ประเภท ไก่เหลืองหางขาว เป็นไก่ขนาดกลาง น้ำหนักตัว เพศผู้ 3-4 กิโลกรัม ตัวเมียหนัก กิโลกรัม ขึ้นไป สีของเปลือกไข่ สีขาวนวล
         ไก่เหลืองหางขาว คือ ไก่พื้นเมืองของไทยสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งพัฒนามาจากไก่บ้านพันธุ์กะตังอู หรือไก่อู มีมาพร้อมคนไทยโบราณ พบคนนำไก่มาชนกันในสมัยสุโขทัย เมื่อชาวบ้านว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา ใครใคร่ทำอะไรก็ได้ ก็นำไก่มาเล่นชนไก่ จากชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา แพร่กระจายกันสู่หมู่ขุนนาง เจ้าขุน เจ้านาย และต่อมาได้พัฒนาเป็นกีฬาพระราชา เช่น ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเจ้าเสือ และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นต้น ไก่ เหลืองหางขาวที่นิยมเป็นพันธุ์แท้ดั้งเดิม ต้องเป็นไก่บ้านกร่าง บ้านหัวเทจังหวัดพิษณุโลกเพราะไก่พิษณุโลกเป็นไก่ในประวัติศาสตร์ที่ครั้ง หนึ่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสมัยทรงพำนักอยู่ในประเทศพม่าได้ทรงนำไก่เหลือง หางขาวจากพิษณุโลก ซึ่งเป็นเมืองพระราชบิดาของพระองค์ไปชนกับไก่ของพระมหาอุปราชาไก่เหลืองหาง ขาว เป็นไก่ฉลาดปราดเปรียว อึด ทน เป็นไก่เชิงแปดกระบวนท่า ไก่เหลืองหางขาวจึงชนะไก่พม่ามาตลอด
         ลักษณะลูกไก่ หน้าอก ปีกไชนอกมีสีขาว ส่วนปาก และขา สีขาวอมเหลืองสายพันธุ์เหลืองหางขาว  เป็นสายพันธุ์ไก่ชนลักษณะปากสีขาวอมเหลือง  หรือสีงาช้าง  ปากสั้น  อวบใหญ่คล้ายปากนกแก้ว  และมีร่องน้ำชัดเจน  กลางปากนูนเป็นสันข้างๆ  เป็นร่องน้ำ  ตาเป็นเหยี่ยว  หัวตาแหลม  ตาดำคว่ำ  ตาดำเล็กและรี  รอบๆ  ตาดำสีขาวอมเหลือง  หงอนหิน  ด้านบนของหงอนบางเรียบปลายหงอนยาวเลยตา  โคนหงอนโค้งติดกับศีรษะ  ตุ้มหูสีแดงเดียวกับหงอนเล็กไม่หย่อนยานรัดรับกับใบหน้า  เหนียงเล็กรัดติดคาง  รูปใบหน้าแหลมยาว  มีเนื้อแน่น   ผิวหน้าเรียบมัน  กะโหลกศีรษะหนายาว      ลักษณะลำตัวอกแน่นกลมมีเนื้อเต็ม  กระดูกอกยาวตรง  หลังเป็นแผ่นกว้าง  มีกล้ามเนื้อมาก  หลังเรียบตรงไม่โค้งนูน  ไหล่กว้างยกตั้งตรง  คอใหญ่  กระดูกคอถี่  ปั้นขาใหญ่ กลมมีเนื้อเต็ม เนื้อแน่น  แข็งแรง  ผิวหนังขาวอมเหลือง  ขาวอมแดง  สีขนลำตัวดำจะมีแซมขาวบ้างที่หัว  หัวปีก  ข้อขา  สร้อยคอเหลืองชัดเจน  ยาวประบ่า  สร้อยหลังเป็นสีเดียวกับสร้อยคอเรียงกันเต็มแผ่นหลัง  เริ่มจากโคนคอถึงโดนหาง  เส้นขนละเอียดยาวระย้า  สร้อยปีกสีเดียวกับสร้อยคอ  เห็นเด่นชัดเจนยิ่งขาวและยาวมาก ๆ  ยิ่งดี  ขนหางควรพุ่งตรงและยาว  ปลายหางโค้งตกลงเล็กน้อย  ขาแข้งและเดือยขาวอมเหลืองสีเดียวกับสีปาก  เกล็ดแข็งแน่นหนาเรียบ  เดือยใหญ่แข็งแรง  เล็บสีขาวอมเหลืองทุกเล็บ  และไม่มีสีดำปน  เพศเมียลำตัวสีดำ  หงอนและใบหน้าสีเดียวกับไก่ตัวผู้

ไก่พื้นเมืองเหลืองหางขาว


สายพันธุ์ประดู่หางดำ
        ไก่ชนพันธุ์ประดู่หางดำมีลักษณะเด่นๆ พอที่จะสังเกตได้ดังนี้ ปาก เป็นสายพันธุ์ไก่ชนที่มีปากสีดา อูมใหญ่ โดยปากจะคล้ายปากนกแก้ว ปากบนมีร่องน้าทั้งสองข้าง ระหว่างร่องน้าจะเป็นสันราง ตา ตาสีประดู่ หรือแดง อมม่วง หรือตาออกสีดา หรือสีแดง หงอน หงอนหินไม่มีจักเลย สร้อยคอ สร้อยคอ สีประดู่ยาวประบ่า ปีกใหญ่ยาว สร้อยปีกสีเดียวกับสร้อยคอ สร้อยหลังสีประดู่ยาวระย้าประก้น ขน ขนลาตัวขนปีกและหางสีดา กะลวยหางดา โคนขาใหญ่ หน้าอก หน้าอกกว้าง และยาวเนื้อเต็มแน่น ขาแข้ง เล็บและเดือย สีดา เพศเมียสีเดียวกับเพศผู้แต่ไม่มีสร้อย ไก่ประดู่หางดา

  
                                                                  ไก่พื้นเมืองประดู่หางดำ

สายพันธุ์เขียวหางดำหรือเขียวกา
         เขียวกา  หรือเขียวหางดำ  ลักษณะทั่วๆ  ไปคล้ายๆ  กับประดู่หางดำ  ปากดำ  หงอนหิน  หน้าหงอนบาง  กลางหงอนสูง  ท้ายหงอนจะตกกดกระหม่อม  สร้อยคอหลังและสร้อยหางสีเขียว  ขนปีและลำตัวเขียว  หางดำแข้งดำ  และเล็บดำเป็นไก่พื้นเมืองของไทยมาแต่โบราณ พัฒนา มาจากไก่บ้านพันธุ์ กะตังอู หรือ ไก่อู มีมาพร้อมคนไทยโบราณ สืบได้ตั้งแต่ ต้นสมัยสุโขทัย เป็นต้นมา ไก่เขียวหางดา เป็นไก่พันธุ์หนึ่งมีชั้นเชิงดีมีลาหัก ลาโค่นดี นิยมเลี้ยงแพร่หลายตั้งแต่ชาวบ้านไปจนถึงขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เช่น พระยาพิชัยดาบหัก เลี้ยงไก่เขียวหางดา ชื่อ ไก่พาลี
ไก่เขียวหางดำ ที่นิยมเป็นพันธุ์แท้จะเป็นไก่อุตรดิตถ์ ชลบุรี (พนัสนิคม) อยุธยา และแถบภาคใต้หลายจังหวัด ไก่เขียวหางดาเป็นไก่ในประวัติศาสตร์ และในวรรณคดีไทย เรื่องพระรถเมรี หรือพระรถเสน หรือนางสิบสอง ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ พระยาพิชัยดาบหัก ไก่เขียวหางดามีถิ่นกาเนิดทางภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือของไทย ไก่เขียวมีชื่อเรียกต่างกันไปตามท้องถิ่น เช่น แถบภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี (พนัสนิคม) เรียก “เขียวพระรถ” ในภาคเหนือ จังหวัดอุตรดิตถ์ เรียก “เขียวพาลี” ส่วนภาคกลาง เรียก “เขียวพระยาพิชัยดาบหัก” และภาคใต้ เรียก “เขียวมรกต” และยังมีชื่ออื่นๆ อีก เช่น เขียวไข่กา, เขียวพระอินทร์, เขียวนิลสาริกา ไก่พันธุ์เขียวหางดา ปัจจุบันค่อนข้างหายาก กาลังอนุรักษ์และพัฒนากันต่อไป ประเภท ไก่เขียวหางดา เป็นไก่ขนาดกลาง น้าหนักโดยเฉลี่ย เพศผู้หนัก 3.00 กิโลกรัมขึ้นไป เพศเมียประมาณ 2.00 กิโลกรัมขึ้นไป สีของเปลือกไข่ สีน้าตาลนวล ลักษณะลูกไก่ หัว หน้าอก ปีกไชนอก สีขาวเล็กน้อยคล้ายประดู่หางดา ปาก แข้ง สีเขียวอมดา หรือน้าตาลอมดา

ไก่พื้นเมืองเขียวหางดำหรือเขียวกา

ไก่แดง : มีรูปร่างสูง ทะมัดทะแมง ขนพื้นลาตัว หน้าคอ หน้าท้อง ขนใต้ปีก ขนสร้อยคอ สร้อยปีกแดง ขนหางมีสีดาหรือแดงมีขนสีขาว แซม ปากและแข้งสีเหลือง ผิวหนังสีขาวอมเหลือง เปลือกไข่สีน้าตาลอ่อน หงอนถั่ว


ไก่แดง

ไก่ชี :มีรูปร่างโปร่ง ขนลาตัว สร้อยคอ สร้อยหลังและขนหางมีสีขาว ปากและแข้งสีเหลืองและขาวอมเหลือง ผิวหนังสีขาวอมเหลือง เปลือกไข่ สีขาวนวล หงอนถั่ว

ไก่ชี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น